ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับระบบการบริการสาธารณสุขเป็นประจำ 2. ติดตามข่าวสารสาธารณสุขอย่างสม่ำเสมอ 3. ดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองและครอบครัวได้อย่างถูกต้อง 4. แนะนำผู้อื่นในการปฏิบัติตนที่นำไปสู่การมีสุขภาพดี 5. สมัครเข้าเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเพื่อนบ้านในชุมชน เพื่อการมีสุขภาพอนามัยที่ดี โดยทำหน้าที่เป็นตัวแทนสมาชิกในชุมชนในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาสาสมัครเหล่านี้ ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม. ) 6. เผยแพร่ความรู้และข่าวสารสาธารณสุขซึ่งมีด้วยกันหลายวิธี ได้แก่ การนำข่าวสารที่ได้จากหน่วยงานสาธารณสุขไปใช้ในห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมุดชุมชน หรือจากแหล่งข้อมูลต่างๆมาเขียนเป็นบทความโดยย่อ แล้วนำไปติดให้ผู้อื่นอ่าน การแจกเอกสารสาธารณสุขแก่ผู้ที่สนใจหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพตามเนื้อหาที่มีในเอกสาร และการนำข่าวสารสาธารณสุขไปบรรยายจัดนิทรรศการ และให้ความรู้ทางการกระจายเสียง 7. มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ 8. ริเริ่มกิจกรรมเกี่ยวกับงานสาธารณสุขในชุมชน เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม 9. ส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทุกครั้งที่มีโอกาส วัยรุ่นเป็นวัยช่วงต่อที่จะก้าวไปสู่วัยผู้ใหญ่และเป็นเครื่องชี้วัดอนาคตของชาติ จึงถือว่าเป็นกำลังสำคัญยิ่งในการพัฒนาสาธารณสุขในชุมชน วัยรุ่มควรให้ความร่วมมือและเข้าร่วมในการพัฒนางานสาธารณสุขชุมชนทุกครั้งที่มีโอกาส 5.
วันนี้ (10 เมษายน 2565) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ ลงพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อประชุมทีมเซลล์แมนยะลา และตรวจติดตามสถานการณ์การค้าในจังหวัดยะลา โดยมีนายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ. บต) นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมประชุมและให้การต้อนรับ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงภายหลังหารือกับหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่ว่า มีประเด็นที่เป็นข้อสรุป 7 ประเด็น คือ 1. กรณีเรื่องภาคเอกชนต้องการให้มีการผ่อนปรนผังเมืองยะลา เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถสร้างห้องเย็นในการจัดเก็บทุเรียนหรือผลไม้ได้โดยสะดวกขึ้น ไม่จำเป็นต้องนำไปฝากหรือเช่าห้องเย็นในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งขณะนี้ปริมาณผลผลิตทุเรียนมีจำนวน 30, 000 ตันต่อปี แต่มีห้องเย็นในพื้นที่ที่จะรองรับเพียง 10, 000 ตัน โดยมอบหมายให้ทางจังหวัดยะลา ได้มีการหารือกันอีกครั้งเป็นระยะเวลา 1 เดือนเพื่อพิจารณา 2. สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเสนอขอให้ภาครัฐต่ออายุเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่ธนาคารออมสินปล่อยกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์และธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในอัตราดอกเบี้ยเพียง 1.
การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอำเภอเบตง ซึ่งมีการเตรียมการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำชลประทาน เพื่อแก้ไขปัญหา โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี จะเป็นผู้ประสานงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกรมชลประทาน เพื่อบรรจุโครงการดังกล่าวเข้าสู่แผนงาน และ 7. ประเด็นอาคารด่านศุลกากรและด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอเบตง ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ขณะนี้พบว่า อาคารด่านตรวจคนเข้าเมืองมีงบประมาณ 5. 2 ล้านบาทที่จะซ่อมแซมตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นไปแล้ว ส่วนอาคารศุลกากรได้มีการประสานอธิบดีกรมศุลกากรให้ลงพื้นที่มาช่วยดูแล เพื่อดำเนินการในการรองรับนักท่องเที่ยวต่อไป
พ. ร.
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ โครงการโซลาร์ภาคประชาชน "คุ้มไหม ถ้าจะติดโซลาร์ภาคประชาชน" ตอบ: คุ้มสำหรับผู้ใช้ไฟในช่วงกลางวันมาก เพราะการใช้งานโซลาร์เซลล์ในช่วงเวลานั้นจะประหยัดกว่าการใช้ไฟการไฟฟ้าถึงหน่วยละ2 บาท(โดยประมาณ) เหลือจากการใช้สามารถขายคืนให้กับการไฟฟ้าได้ในอัตราเฉลี่ยคืน 2. 2 บาท/หน่วย เพื่อไม่ให้ไฟฟ้าที่ผลิตได้สูญเปล่า และช่วยทำให้คืนทุนได้ไวขึ้น "โซลาร์ภาคประชาชน ดีกว่าติดโซลาร์แบบอื่นตรงไหน" ตอบ: หน่วยงานรัฐให้ความสำคัญและสนับสนุนประชาชนหันมาใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น โดยอนุญาตให้ภาคครัวเรือนเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า และการผลิตส่วนที่เหลือยังสามารถขายคืนให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย ทำให้เกิดการคืนทุนในการติดตั้งที่เสียไปในเบื้องต้นได้กลับคืนมา "โซลาร์ภาคประชาชน เหมาะกับใคร? " ตอบ: เหมาะสำหรับผู้ที่คิดจะประหยัดไฟ และมีหน่วยการใช้ไฟในช่วงกลางวันสูง เน้นผลิตไฟฟ้าเพื่องานเองภายในบ้านเป็นหลัก และนำไฟที่เหลือจากการผลิตนั้นขายให้กับการไฟฟ้า โดยมีอัตรารับซื้อคืน 2. 2 /หน่วย "โซลาร์ภาคประชาชน ทำไมรับซื้อถูก? " ตอบ: การที่โครงการนี้รับซื้อถูก เพราะเน้นการผลิตเพื่อใช้เองเป็นหลัก มากกว่าผลิตเพื่อขายรัฐ โดยมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าโดยใช้โซลาร์ต้นทุนอยู่ที่ 2 บาท แต่ถ้าเราซื้อจากการไฟฟ้าจะมีค่าใช้จ่ายต่อหน่วยอยู่ที่ 4.
1) การจัดเวทีประชุมของทีมสุขภาพในชุมชน 1. 2) การมีทีมสุขภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาสุขภาพของชุมชนที่หลากหลาย 1. 3) การกำหนดกติกาหรือข้อบังคับหรือมาตรการทางสังคมด้านสุขภาพ ส่วนที่ 2: การจัดทำแผนด้านสุขภาพโดยชุมชน 2. 1) มีการจัดทำแผนสุขภาพโดยชุมชน 2. 2) การจัดกิจกรรมพัฒนา/แก้ปัญหาสุขภาพในชุมชน ส่วนที่ 3: การจัดการงบประมาณเพื่อใช้ในการพัฒนาสุขภาพ 3. 1) ในปี 2560 หมู่บ้านได้รับงบประมาณสนับสนุนการจัดกิจกรรมด้านสุขภาพจาก เทศบาล/อบต. หรือไม่ ส่วนที่ 4: การจัดกิจกรรมพัฒนาสุขภาพในหมู่บ้าน / ชุมชน ในปี 2560 มีกิจกรรมใดบ้าง 4. 1) กิจกรรมด้านการพัฒนาศักยภาพ อสม. / แกนนำสุขภาพ 4. 2) กิจกรรมด้านการสร้างสุขภาพ / นวัตกรรมสุขภาพ 4. 3) กิจกรรมด้านการบริการสุขภาพภาคประชาชน 4. 4) กิจกรรมด้านการถ่ายทอดความรู้ในชุมชน 4.