เหลือพื้นที่ไว้เล็กน้อย หลายคนอาจเคยเจอคำถามที่ว่าในการเลือกซื้อรองเท้าแต่ละคู่ควรเหลือพื้นที่ไว้เท่าไหร่ เนื่องจากการสวมรองเท้าที่แน่นเกินไปอาจทำให้อึดอัด มีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลและรู้สึกไม่สบายเท้า แต่ถ้าเผื่อพื้นที่ไว้มากเกินไปก็อาจทำให้รองเท้าหลุดง่ายและรู้สึกไม่คล่องแคล่วขณะเล่นกีฬาได้ เราควรเหลือพื้นที่ระหว่างนิ้วเท้าที่ยาวที่สุดไปจนถึงขอบด้านหน้าภายในรองเท้าประมาณ 0. 9-1. 3 เซนติเมตร การเว้นพื้นที่ไว้ประมาณนี้จะช่วยให้เราสวมรองเท้าได้พอดี คล่องตัว ไม่หลุดออกง่าย สบายเท้า และลดความเสี่ยงจากการเสียดสี ซึ่งอาจเป็นขนาดที่เหมาะสมกับคนส่วนใหญ่ 4.
ควรซักด้วยมือ ชุดออกกำลังกายก็เหมือนกับกางเกงยีนส์ ถึงแม้จะใส่เป็นประจำ แต่ก็ไม่ควรซักบ่อย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาที่ต้องซักจริง ๆ ควรซักชุดออกกำลังกายด้วยมือแทนการใช้เครื่อง เนื่องจากการซักมือจะอ่อนโยนต่อเนื้อผ้าได้มากกว่า ทำให้ถนอมใยผ้า รวมถึงช่วยให้ชุดออกกำลังกายมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้นั่นเอง 2. ซักแยกกับเสื้อผ้าทั่วไป หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงซักชุดออกกำลังกายปนกับเสื้อผ้าประเภทอื่นไม่ได้ นั่นเป็นเพราะว่าหากเราซักชุดออกกำลังกายร่วมกับเสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยีนส์ที่มีซิปหรือมีกระดุม วัสดุเหล่านี้ก็สามารถขูดเข้ากับชุดออกกำลังกายจนทำให้เกิดการชำรุดเสียหายได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากเสื้อผ้าที่เรานำมาซักร่วมกันมีน้ำหนักมาก ก็จะทำให้เสื้อผ้าตัวดังกล่าวดูดซึมน้ำยาซักผ้าได้มากกว่าชุดออกกำลังกายหรือชุดปกติที่มีน้ำหนักเบา ส่งผลให้การซักเสื้อผ้าของเราไม่สะอาดหมดจดได้เท่าที่ควรจะเป็นนั่นเอง.. รู้อย่างนี้แล้วคราวหน้าคราวหลังก็อย่าได้เผลอนำมาซักรวมกันเด็ดขาดเลยนะคะ 3. ซักรวมกันได้ทุกตัว ชุดออกกำลังกายแบรนด์ชั้นนำส่วนใหญ่มักจะมีการทดสอบเรื่องสีก่อนนำออกมาวางขายเป็นประจำอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องคิดมากเรื่องการแยกสีชุดออกกำลังกาย สามารถนำไปซักรวมกันแบบตามสบายได้เลยค่ะ 4.
การเลือกรองเท้าให้เหมาะกับการออกกำลังกายนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญมากอีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการสวมรองเท้าออกกำลังกายจะต้องทำให้เราไม่รู้สึกอึดอัดและทรมาน มันจึงต้องถูกใส่ใจเป็นพิเศษยังไงละ รองเท้าออกกำลังกายเลือกอย่างไรถึงจะเหมาะสมกับคนที่สวมใส่?
ตากรองเท้าให้แห้งในที่ร่ม มีลมโกรก อย่านำเข้าเครื่องอบผ้าเด็ดขาด!! เพราะอาจทำให้รองเท้าเสียหายได้ หากรองเท้ามีความชื้นมากให้นำกระดาษหนังสือพิมพ์ยัดเข้าไปในรองเท้า จะช่วยให้รองเท้าแห้งไวยิ่งขึ้นค่ะ หากต้องการให้รองเท้าแห้งไว สามารถใช้พัดลมเป่า และหมั่นเปลี่ยนกระดาษหนังสือพิมพ์เมื่อกระดาษชื้นได้นะคะ 5. ซักเชือกผูกรองเท้าในผงซักฟอกจนสะอาดปราศจากคราบดำ หรือคราบฝุ่น สามารถใช้แปรงขนนุ่มในการทำความสะอาดเชือกรองเท้าได้ค่ะ 6. สำหรับแผ่นรองเท้าให้นำออกไปผึ่งลม หรือถ้าแผ่นรองเท้าของเราอับมาก หรือส่งกลิ่นเหม็น สามารถนำเบคกิ้งโซดามาโรยเพื่อดูดซับกลิ่น ทิ้งไว้หนึ่งวันแล้วจึงเคาะผงเบคกิ้งโซดาออกให้หมด แผ่นรองเท้าจะกลับมาสะอาดน่าใช้งานอีกครั้ง และยังช่วยลดกลิ่นเหม็นอับได้เป็นอย่างดีค่ะ ข้อควรระวังในการซักรองเท้าวิ่ง ในการซักรองเท้าวิ่งสำหรับ ออกกำลังกาย นั้นมีข้อควรระวังดังนี้ค่ะ 1. ไม่ควรนำรองเท้าซักในเครื่องซักผ้า เพราะอาจทำให้รองเท้าวิ่งเสียหาย เสียทรง หรือสีตกไปโดนส่วนอื่น ๆ ของรองเท้าได้ ยอมเสียเวลานิดหน่อย โดยซักรองเท้าด้วยมือจะดีกว่าค่ะ 2. หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ไม่ควรตากรองเท้าในแดดที่แรง ๆ อย่าวางรองเท้าไว้ใกล้เครื่องทำความร้อนต่าง ๆ ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมเป่ารองเท้า และห้ามนำรองเท้าเข้าเครื่องอบผ้า เพราะความร้อนทำให้เกิดผลเสียต่อรองเท้าวิ่ง นอกจากกาวจะเสื่อมแล้ว รองเท้าอาจจะเสียทรงได้เลยค่ะ 3.
ฟิตเนสสุดแจ่ม ย่านพระอาทิตย์